Akula 310 ราคา
จรินทร์ ธานีรัตน์ ได้แบ่งประเภทของกิจกรรมนันทนาการไว้ 11 ประเภท ดังนี้ 1. นันทนาการประเภทการฝีมือและประเภทศิลปหัตถกรรม นั่นก็คือ พวก งานฝีมือหรือสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ เช่น การวาดรูป งานแกะสลัก งานปั้น การประดิษฐ์ดอกไม้ เย็บปักถักร้อย ทำ ตุ๊กตา พี่ซาร่าไม่ใช่สายนี้ พี่ขอบายจ้า 2. นันทนาการประเภทเกม กีฬา กรีฑา กีฬากลางแจ้ง เช่น ฟุตบอล บาสเก็ตบอลกีฬาในร่ม ( Indoor Games) หมากรุก หมากฮอต หมากเก็บ หรือ Rov ที่กำลังฮิตสุดๆ ณ จุดนี้ พี่อยากจะบอกว่าพี่เซียนมากนะจ๊ะ มาตีป้อมกับพี่ได้จ้า 3. นันทนาการประเภทดนตรีและร้องเพลง เป็นกิจกรรมนันทนาการที่ให้ความบันเทิงดนตรีเป็นภาษาสากลที่ทุกชาติทุกภาษาสามารถเข้าใจเหมือนกันแต่ละชาติแต่ละท้องถิ่นจะมีเพลงพื้นบ้านของตนเองและเครื่องดนตรีพื้นบ้านเราสามารถเลือกได้ตามความสนใจไม่ว่าจะเป็นสากลหรือพื้นบ้าน 4. นันทนาการประเภทภาพยนตร์ เป็นกิจกรรมที่ให้ความบันเทิง ทั้งกับผู้ทำ และผู้ชม นอกจากนี้การละครยังสะท้อนให้เห็น ถึงสภาพความเป็นจริงของสังคมในยุคนั้น ๆ ด้วย เช่น ชมภาพยนตร์ละครทีวีเล่นละครใบ้ ละครเวทีโขน หุ่นกระบอก หนังตะลุง 5. นันทนาการประเภทงานอดิเรก เป็ น กิ จ ก ร ร มที่ มีห ล า กห ล า ย สามารถเลือกได้ตามความสนใจ ทั้งประเภทสะสม การกระทำ หรืองานสร้างสรรค์ เช่น สะสม แสตมป์ ทำ อาหาร ถ่ายภาพ จั ด ด อ ก ไ ม้ ส ะ ส ม ข อง เ ล่ น ก า ร เ ลี้ ยง สั ต ว์ ป ลู ก ต้ น ไ ม้ งานประดิษฐ์การออกแบบต่าง ๆ 6.
การเขียนเรื่องราวอาจใช้โวหารต่าง ๆ กันแล้วแต่ชนิดของข้อความ โวหารอาจจำแนก ตามลักษณะ ของข้อความหรือเนื้อหาเป็นประเภทต่าง ๆ ได้ ดังนี้ 1. บรรยายโวหาร คือ โวหารที่ใช้บอกกล่าว เล่าเรื่อง อธิบาย หรือบรรยายเรื่องราว เหตุการณ์ ตลอดจนความรู้ต่าง ๆ อย่างละเอียด เป็นการกล่างถึงเหตุการณ์ที่ต่อเนื่องกัน โดยชี้ให้เห็นถึงสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์ สาเหตุที่ก่อให้เกิด เหตุการณ์ สภาพแวดล้อม บุคคลที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผลที่เกิดจากเหตุการณ์นั้น เพื่อให้ผู้รับสารเข้าใจเนื้อหา สาระอย่างแจ่มแจ้งชัดเจน 2. อธิบายโวหาร คือ โวหารที่ทำให้ความคิดเรื่องใดเรื่องหนึ่งกระจ่างชัดเจนขึ้น มักใช้ ในงานเขียนทางวิชาการ และตำรับตำราต่าง ๆ โดยมีจุดประสงค์จะนำประเด็นที่สงสัยมาอธิบายให้เข้าใจแจ่มแจ้ง การเล่าเรื่องบางตอนถ้ามีประเด็นใดที่เป็นปัญหาก็อาจใช้อธิบายโวหารเสริมความตอนนั้นจนเรื่องกระจ่างชัดเจนขึ้น บางท่านจึงถือว่าอธิบายโวหารเป็นส่วนหนึ่งของบรรยายโวหาร อธิบายโวหารนี้มักใช้ในการอธิบายกระบวนการ การวิเคราะห์หรือจำแนกเนื้อหาออกเป็นประเภท หรือเป็นพวก 3. พรรณนาโวหาร คือ โวหารที่ใช้กล่าวถึงเรื่องราว สถานที่ บุคคล สิ่งของ หรืออารมณ์อย่างละเอียด สอดแทรกอารมณ์ ความรู้สึกลงไปเพื่อโน้มน้าวใจ ให้ผู้รับสารเกิดภาพพจน์ เกิดอารมณ์คล้อยตามไปด้วย ใช้ในการพูดโน้มน้าว อารมณ์ของผู้ฟัง หรือเขียนสดุดี ชมเมือง ชมความงามของบุคคล สถานที่และแสดงอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ เป็นต้น 4.
โครงงานตามสาระการเรียนรู้ เป็นการใช้บูรณาการร่วมกับการเรียนรู้ ทักษะและเป็นพื้นฐานในการกำหนดโครงงานและปฏิบัติ ๒. โครงงานตามความสนใจ เป็นโครงงานที่ผู้เรียนกำหนดขั้นตอน ความถนัด ความสนใจ ความต้องการ โดยใช้ทักษะความรู้ จากกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่างๆมาบูรณาการเป็นโครงงานและปฏิบัติ สามารถแบ่งได้ 4 รูปแบบ ตามวัตถุประสงค์ 1. โครงงานที่เป็นการสำรวจ รวบรวมข้อมูล 2. โครงงานที่เป็นการค้นคว้า ทดลอง 3. โครงงานที่เป็นการศึกษาทฤษฎี หลักการ หรือแนวคิดใหม่ๆ 4.
วิธีการ (Method) มีลักษณะใกล้เคียงกับระเบียบวิธีปฏิบัติ แต่จะมีรายละเอียดที่เจาะลึกและเฉพาะเจาะจงมากกว่า 4. กฎ (Rule) เป็นคำแนะนำที่เฉพาะเจาะจง ไม่แสดงลำดับขั้นตอนของการกระทำ และมักมีบทลงโทษไว้สำหรับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตาม ข. แผนใช้ครั้งเดียว (Single use plan) เป็นแผนที่แสดงลักษณะการปฏิบัติงานในช่วงระยะเวลาหนึ่งที่กำหนดไว้ และจะมีการวางแผนใหม่เมื่อได้ดำเนินการบรรลุตามวัตถุประสงค์ของแผนนั้นแล้ว แผนใช้ครั้งเดียวนี้ประกอบไปด้วย 1. โครงการ (Programme) เป็นชุดของวัตถุประสงค์สำหรับบรรลุเป้าหมายที่สำคัญขององค์การเพียงครั้ง เดียว มักมีระยะเวลาที่ยาวนาน และมักจะระบุข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมาย วิธีการ ผู้รับผิดชอบ ระยะเวลา และการคาดการณ์ค่าใช้จ่าย 2. โครงงาน (Project) เป็นส่วนที่ย่อยลงไปของโครงการและมีระยะเวลาที่สั้น 3. งบประมาณ (Budget) เป็นแผนซึ่งแสดงออกในรูปตัวเงินของโครงการดำเนินงานในระยะเวลาหนึ่ง แผนนี้มักจะแสดงการกะประมาณ การบริหารโครงการ ค่าใช้จ่าย ตลอดจนทรัพยากรที่จำเป็นในการสนับสนุนการดำเนินงาน 4. ตารางการทำงานของโครงงาน (Project schedule) แผนงานที่ใช้กำหนดกิจกรรมที่ต้องปฏิบัติในกรอบของเวลาเพื่อให้บรรลุตามเป้า หมายของโครงการ โดยทั่วไปนิยมใช้ Gantt chart
นันทนาการประเภท กิจกรรมพิเศษ เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นการเฉพาะหรือกรณีพิเศษ โดยจะจัดขึ้นตามวาระเป็นครั้งคราว เพื่อสืบสาน ขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรม รวมไปถึง กิจกรรมทางศาสนาเช่น วันสงกรานต์วันลอยกระทง วันปีใหม่ตรุษจีน คริสต์มาสและกิจกรรมในวันสำคัญ ทางศาสนา 11. นันทนาการประเภทเต้นรำ เป็นกิจกรรมที่ใช้จังหวะต่างๆสร้างความสนุกสนาน บางกิจกรรมอาจจะมีทั้งการร้องเพลงและเต้น ไปพร้อม ๆ กัน เช่น เต้นบัลเล่ต์Hip Hop B-Boy รำไทย ลีลาศ ระบำ พื้นเมือง โมเดิร์นแด๊นซ์ และนาฏศิลป์อื่น ๆ